รถตัก กับการใช้งานที่ถูกวิธี ?

*คำเตือน: เมื่อทำการขุดหรือตักต้องให้ลำตัวของเครื่องจักรตั้งตรงเสมอ ไม่ควรทำงานในขณะที่เครื่องจักรมีการหักกลางลำตัว
ข้อควรระวัง
• ถ้ายางเกิดการลื่นไถล จะทำให้อายุการใช้งานของยางสั้นลง ดังน้ันไม่ควรปล่อยให้ยางเกิดการลื่นไถลขณะทำงาน
• เมื่อเดินหน้าเครื่องจักรเข้าไปตักกองดินหรือหิน เพื่อป้องกันการฉีกขาด โดยการลื่นไถลของยางต้องระมัดระวังตรงจุดนี้ในขณะการทำงาน
• ให้ทำการเกลี่ยพื้นที่ทำงานให้เรียบร้อยอยู่เสมอ และขจัดหินที่ตกหล่นออกไป
• เมื่อใช้เครื่องจักรจัดกองวัสดุให้ใช้เกียร์ 1หรือเกียร์ 2 แต่เมื่อจะตักหินให้ใช้เกียร์ 1
1). ขับเครื่องจักรเดินหน้า แล้ววางบุ้งกี๋ลงให้สูงจากพื้นประมาณ 30 ซ.ม. แล้วค่อยๆวางบุ้งกี๋ลงช้าๆ (ถ้าบุ้งกี๋กระแทกพื้น ล้อหน้าจะกระดกขึ้น ทำให้ยางเกิดการลื่นไถล)
2). การเปลี่ยนเกียร์ต่ำลง (เกียร์1) เมื่อถึงหน้ากองวัสดุที่จะตัก เมื่อเปลี่ยนเกียร์ตำเรียบร้อยแล้วให้เหยียบ คันเร่งพร้อมกับการดันบุ้งกี๋เข้าไปในกองวัสดุ
3). เมื่อตักกองดินให้ฟันบุ้งกี๋ขนานกับพื้นดินแต่ถ้าตักหินต้องให้บุ้งกี๋คว่ำลงเล็กน้อย ระวังอย่าวางบุ้งกี๋บนกองหินเพราะจะทำให้ล้อหน้าลอยขึ้นจากพื้นและเกิดการลื่นไถล ของยาง การตักพยายามให้วัสดุอยู่ที่กึ่งกลางของบุ้งกี๋ ถ้าเอียงไปข้างหนึ่งข้างใดของบุ้งกี๋จะทำให้เกิดการตักไม่สมดุล
4). ขณะดันบุ้งกี๋เข้าไปในกองวัสดุ ให้ยกแขนอาร์มขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้บุ้งกี๋เข้ามากเกินไป การยกแขนอาร์มขึ้นจะช่วยเพิ่มแรงกดและลดการลื่นไถลของล้อหน้า
5). ตรวจดูวัสดุเข้าไปในบุ้งกี๋เพียงพอแล้วจึงทำการหงายบุ้งกี๋ขึ้น วัสดุที่ตักจะเต็มบุ้งกี๋ (ถ้าปลายบุ้งกี๋เคลื่อนที่ขึ้นลงในขณะดันบุ้งกี๋เข้าไปในกองวัสดุหรือขุดแซะจะทำให้ล้อหน้าลอยขึ้นจากพื้นดิน เป็นเหตุให้เกิดการลื่นไถลของยาง
6). ถ้าวัสดุมากเกินไปให้ขยับบุ้งกี๋คว่ำและหงายอย่างรวดเร็วเพื่อกำจัดวัสดุส่วนเกินออกไปจากบุ้งกี๋เพื่อป้องกันไม่ให้วัสดุตกหล่นลงมาขณะที่ทำการขนย้าย